ไม่อยากจะเชื่อว่าชีวิตของผมมันจะซวยได้ขนาดนี้ ภาพที่อยู่ตรงหน้าผมเป็นชายชรา ผมเถ้ารุงรังเหมือนคนจรจัดชนิดที่ว่าหาได้แถวๆข้างถนน ผมอยากจะบอกว่าชายชราคนนี้เป็นนางฟ้าประจำกายของผม มิหน่าทำไมผมถึงได้ดวงซวยขนาดนี้ ก็เพราะท่านหูตึงนะสิ
ถ้าอยากถามผมว่าทำไมถึงเห็นนางฟ้าประจำตัวได้ล่ะก็ คงมีเพียงอย่างเดียวที่จะเห็นได้คือโลกหลังความตาย ใช่แล้วครับผมได้ตายไปแล้ว ตอนนี้ได้ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้าที่ไหนสักแห่ง ภาพรอบข้างขาวโพลนไปหมด มองไปทางไหนก็มีแต่สีขาว เว้นแต่พื้นข้างล่างเป็นหมอกลอยต่ำๆ
ขณะนั้นเองผมได้คิดถึง
ในช่วงเวลาที่ผมมีชีวิตอยู่ ผมแทบไม่มีความสุขเลยแม้แต่สักวิที่ได้เกิดมาเป็นผม ถ้าจะพูดง่ายๆผมเกลียดตัวเองครับ ทำไม่ถึงเกลียดก็เพราะว่า ผมได้ทำสิ่งที่น่าอับอายไป เช่น ในวันวาเลนไทน์มีงานที่โรงเรียน นักเรียนชาย-หญิงต่างพากันมอบดอกกุหลาบให้กัน ตอนนั้นผมยืนอยู่กับเพื่อนในกลุ่ม จากนั้นก็มีผู้หญิงคนนึง สวย น่ารัก ผมทักเบียเดินเข้ามาหา คนๆนั้นคือผู้หญิงที่ผมแอบชอบ ผมได้ยื่นมือกำลังรับดอกกุหลาบสีแดงสด ซึ่งผมไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้ผมจะได้รับดอกไม้นั้น แต่ทว่าเธอดึงดอกกุหลาบหนี้ให้พ้นเอื้อมมือผมไปดื้อๆ มันทำให้ผมนั้นติดสถานะสตั้นไปหลายวิ ก่อนหันหลังไปดูคนที่แอบรักกำลังยื่นดอกไม้ไปให้เพื่อนซี้ของผมเอง ผมจึงรีบวิ่งหนีออกจากที่นั้นด้วยความเสียใจ หัวใจของผมมันแตกร้าวไม่เหลือชิ้นดี นี่คือความอับอายจนแทบไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ มันน่าอายมากๆ
และหลังจากนั้นที่ผมเรียนจบก็ไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนเลยสักคน ผมได้ไปทำงานในร้านสะดวกชื้อแห่งหนึ่ง ทำงานไปได้หลายเดือน วันหนึ่งมีโทรศัพท์เรียกสายดังขึ้นในกระเป๋ากางเกงผมจึงรับสาย เมื่อได้ยินประโยคที่ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายๆแบบนี้ขึ้นได้ ผมถึงกับอ่อนแรงทิ้งโทรศัพท์ล้มลงไปนอนกับพื้น ประโยคนั้นบอกว่าพ่อ-แม่ของผมได้ตายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ และที่แย่ไปกว่านั้นพวกท่านได้ทิ้งหนี้สิ้นก้อนโตให้ผมเป็นของขวัญก่อนจากไป หนี้ก้อนนี้ที่ผมได้มาไม่รู้ว่าชาตินี้จะใช้หมดได้รึป่าว แต่ที่ร้ายแรงไปกว่านั้นก็คือ หนี้สิ้นของพวกท่านยืมมาเป็นหนี้นอกระบบ ผมจำเป็นต้องขายบ้าน-ที่ดินให้กับพวกมันไป แต่หนี้ก้อนนั้นก็แทบจะไม่ลดเลย ผมตัวคนๆเดียว งานที่ผมทำอยู่ก็หาได้พอกินอยู่ไปวันๆ มันไม่ทีทางกลบหนี้ก้อนโตได้เลย ผมทำได้เพียงหลบหนีพวกแก๊งเก็บหนี้ในชุดดำไม่ให้พวกมันพบตัว จนไม่ได้ไปทำงานและสุดท้ายก็โดนไล่ออกไปในที่สุด ตอนนี้ผมไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาท ท้องไส้แห้งแทบขาด นอนขดตัวข้างตึกในมุมมืด
ไม่กี่วันผมก็รู้สึกไม่หิวอีกเลย แต่ไม่มีเรียวแรงลุกไปทำอะไรได้ ทำได้แค่นอนมองเศษกระดาษที่ถูกทิ้งไว้ข้างตึก หรือว่าผมกำลังจะตายแล้ว ที่ผ่านมาผมอ้อนวอนภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ นางฟ้า ทั้งหลายให้คุ้มครองผม กระนั้นก็ไม่มีวีแววตอบกลับมา ผมได้คิดทบทวนไปมาว่าชีวิตผมทำไมถึงได้ซวยขนาดนี้ด้วยนะ นี่เป็นความคิดสุดท้ายก่อนผมสิ้นลมหายใจจากโลกใบนี้
และผมก็รู้แล้วว่าทำไมผมถึงได้ซวยขนาดนี้ นั้นก็เพราะว่านางฟ้าประจำกายของผมดันเป็นไอแก่ หงำเหงือก เชื่องช้า หูตึง ไม่ได้ยินคำร้องของลูกนี่เอง โธ่ชีวิต
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น